Venus Thai Massage 

9 ประเภทการนวดที่คนนิยมมากที่สุด

ด้วยพฤติกรรมของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป ทั้งการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน การขับรถเป็นเวลานาน ๆ หรือแม้แต่การเล่นโซเชียลมีเดียผ่านสมาร์ทโฟน ปัญหาปวดเมื่อยร่างกายจึงเป็นปัญหาที่เกือบทุกคนกำลังเผชิญอยู่ การแก้ปัญหาเบื้องต้นแน่นอนว่าทุก ๆ คนคงเบนเข็มมาที่การนวดผ่อนคลาย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการนวดนั้นมีกี่ประเภท แล้วอาการปวดเมื่อยที่คุณกำลังเผชิญอยู่ต้องนวดแบบไหนดี บทความนี้เราจะมาช่วยคุณไขข้อสงสัย พร้อมกับแนะนำเทคนิคการนวดแบบต่าง ๆ ทั้ง 9 ประเภท มาดูกันว่าการนวดแบบไหนจะเหมาะกับคุณมากที่สุด

นวดแผนไทย (Thai Massage)

มาเริ่มต้นกันที่นวดแผนไทย การนวดแผนไทยเป็นเทคนิคการนวดผ่อนคลายที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน บางตำราก็กล่าวว่ามีอายุมากกว่า 2,500 ปี โดยผู้นวดจะใช้ทั้งฝ่ามือ ข้อศอก ท่อนแขน หรือบางแห่งจะใช้ถึงฝ่าเท้าเพื่อนวด คลึง ดึง โยก ในบริเวณกล้ามเนื้อที่มีอาการตึง ซึ่งมักจะเกิดจากการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งซ้ำ ๆ เป็นกิจวัตร ซึ่งประโยชน์ของการนวดแผนไทยนั้น นอกจากจะเป็นการนวดรักษาอาการปวดเมื่อย ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ยังมีส่วนช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น

นวดอโรมาเธอราพี (Aromatherapy Massage)

การนวดอโรมาเธอราพีหรือที่คนไทยมักเรียกกันง่าย ๆ ว่า การนวดน้ำมัน เป็นหนึ่งในเทคนิคการนวดผ่อนคลายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยจะใช้น้ำมันหอมระเหยประกอบการนวด เป็นเทคนิคที่ช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ และในส่วนของน้ำมันหอมระเหย ก็จะมีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างกันออกไป ช่วยปลอบประโลมความเหนื่อยล้าของร่างกายในรูปแบบที่ต่างกัน เช่น น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ น้ำมันหอมระเหยคาโมมายล์ น้ำมันหอมระเหยมะลิ น้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัส เป็นต้น

นวดสวีดิช (Swedish Massage)

หากประเทศไทยมีเทคนิคการนวดเฉพาะคือนวดแผนไทย ทางฝั่งตะวันตกเองก็มีเทคนิคเฉพาะเช่นเดียวกันคือการนวดสวีดิช ซึ่งเป็นศาสตร์การนวดเพื่อขจัดความเครียดของกล้ามเนื้อ ประโยชน์ของการนวดแบบสวีดิชจะคล้าย ๆ กับการนวดแผนไทยแทบทุกประการ เพียงแค่จะมีท่วงท่าการนวดที่อ่อนโยนกว่าเพียงเท่านั้น เป็นเทคนิคการนวดสำหรับผู้ที่มีผิวหนังบอบบาง เกิดรอยช้ำบนร่างกายได้ง่าย หรือหากใครได้ลองนวดแผนไทย แล้วอยากได้เทคนิคที่อ่อนโยนกว่าแต่ได้ผลลัพธ์คล้าย ๆ กัน การนวดสวีดิชถือว่าตอบโจทย์มากที่สุด

ไม่ใช่แค่พนักงานออฟฟิศที่ประสบปัญหาปวดเมื่อยร่างกายเท่านั้น เพราะแม้จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบเล่นกีฬาเป็นประจำหรือเป็นนักกีฬาระดับมืออาชีพ ก็ประสบปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อเช่นเดียวกัน หนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จของเหล่านักกีฬาระดับโลกเกือบทุกคนคือการนวดสปอร์ต ซึ่งเป็นการนวดผ่อนคลายบริเวณกล้ามเนื้อที่ใช้งานหนัก ซึ่งไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงแค่การนวดเพื่อผ่อนคลายเท่านั้น ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการทำงานเซลล์กล้ามเนื้อและหลอดเลือด เพื่อเร่งการฟื้นฟูร่างกายในส่วนที่สึกหรอ ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ และช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกายไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย